ข้อคิด..ก่อนการฝึก

ก่อนที่จะเริ่มการฝึกเทคนิคต่างๆ ของคาราเต้ อยากจะให้คำแนะนำทั่วไป ว่า " จะทำอย่างไร จึงจะสามารถเข้าถึงการฝึก และทัศนคติ ที่ควรจะมี ต่อการฝึกฝน คาราเต้ "

  1.  beforetraining01คาราเต้นั้นเป็นศิลปะการต่อสู้และป้องกันตัว นอกเหนือไปจาก การพยายามฝึกฝน อย่างหนัก และซื่อสัตย์จริงใจ ต่อการฝึกของคุณแล้ว คุณจะต้องจริงจังต่อการฝึก ให้มากที่สุด ตั้งแต่เริ่มต้นในทุกย่างก้าว ทุกการเคลื่อนไหว ของร่างกาย คุณจะต้องจินตนาการว่า คุณกำลังเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ ที่ถือดาบเตรียมพร้อมอยู่ ในแต่ละหมัดที่ชกออกไป จะต้องใช้พลังจากทั้งร่างกาย ด้วยความรู้สึก ที่จะสามารถทำลายคู่ต่อสู้ด้วยการปล่อยหมัดเพียงครั้งเดียว คุณจะต้องคิดว่า ถ้าการชกของคุณ พลาด เท่ากับ คุณทำให้ชีวิตของคุณ พบกับความพ่ายแพ้ หากคิดได้เช่นนี้แล้ว " จิตใจและพลังในตัวคุณ จะรวมเป็นหนึ่งเดียว " และสามารถ แสดงออกมาได้ อย่างเต็มที่ แม้ว่า คุณจะฝึกฝนอย่างหนัก เป็นแรมปี แต่ถ้าหากการฝึกของคุณ เป็นเพียงแค่การเคลื่อนไหว ของ มือและเท้า โดยขาดสิ่งที่กล่าวมาข้างต้น มันก็ไม่ต่าง ไปจากการฝึกเต้นรำเลย และ คุณจะไม่มีทางเข้าถึง ความหมายที่แท้จริงของคาราเต้ได้คุณจะพบว่า การฝึกด้วยทัศนะคติ ที่จริงจัง ต่อ ความเป็นความตาย จะมีผลต่อคุณ ไม่เฉพาะในการฝึกคาราเต้ แต่ยังมีผลต่อ ด้านต่างๆ ในชีวิตด้วย ชีวิตก็เหมือนกับการเผชิญหน้ากัน ชองนักดาบ หากคุณใช้ชีวิตอย่างไม่กระตือรือร้น โดยคิดว่าไม่เป็นไร ถ้าพลาดแล้วยังมีโอกาศ ครั้งที่สอง แล้วชีวิตคุณจะประสบผลสำเร็จอะไร ในช่วงชีวิตสั้นๆ นี้บ้าง ???
  2. พยายามทำสิ่งที่ได้รับการสอนให้ได้ โดยไม่บ่นคร่ำครวญ และหลีกเลี่ยง คนที่ไม่มีความกระตือรือร้น ไม่มีความซื่อสัตย์ และ ไม่มีความกล้าหาญต่อตนเอง คนพวกนี้ มักจะใช้ วิธีหลีกเลี่ยงว่า" ทำไม่ได้ "  บ่อยครั้งมีการบ่นคร่ำครวญ อย่างโง่เขลา ในขอบเขตที่น่าสงสาร ตัวอย่างเช่น ในการฝึก Koukutsu-dachi (Back Stance) ข้าพเจ้าได้พบกับ หลายคนที่พูดว่า เขาไม่สามารถจะทำท่านี้ได้ ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนก็ตาม พวกเขาถามข้าพเจ้าว่า ควรทำอย่างไรดี ทั้งที่พวกเขาเพิ่งจะฝึกได้ ไม่ถึงชั่วโมง แม้ว่า คนๆหนึ่ง จะฝึกท่านี้อย่างหนักทุกวัน ก็ยังต้องใช้เวลา 6 เดือน ถึง 1 ปี เพื่อที่จะเรียนรู้มัน จนสามารถที่จะยืนได้มั่นคงดุจหิน มันจึงเป็นเรื่องที่น่าขัน มากที่จะพูดว่า " ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนก็ตาม " ทั้งที่ยังไม่ได้เริ่มฝึกจนเหงื่อออกเลย ด้วยซ้ำ ถ้าพระเซ็น ได้ยินเรื่องนี้ ก็คงจะตวาด และตำหนิใส่ พร้อมทั้งตะเพิดใส่คนผู้นั้นเป็น แน่แท้
  3. คุณไม่สามารถ ที่จะเรียนรู้ ผ่านทางคำพูด แต่คุณจะต้องเรียนรู้ผ่านทาง ร่างกาย จงอดทนต่อความยากลำบาก ความเจ็บปวด ในขณะที่คุณพยายามฝึกวินัย และขัดเกลา ตนเอง คุณต้องเชื่อว่า ถ้าคนอื่นทำได้ คุณก็ต้องทำได้ จงถามตัวเองว่า " อะไรที่ทำให้เราทำไม่ได้ ? เราทำผิดตรงไหน? อะไรที่เรายังไม่มี? "นี่คือการฝึกฝนศิลปะ การต่อสู้ และ ป้องกันตัว
  4. จุดหลักๆ ที่สำคัญต่างๆ หากถูกสอนโดยคนอื่น อาจจะถูกลืมได้โดยง่าย แต่หากจุดสำคัญนั้น ได้จากความเหนื่อย ยากลำบากแล้ว ก็ไม่มีวันที่จะถูกลืมไปได้เลย ข้าพเจ้าจึงเชื่อว่า นี่คือ เหตผลว่าทำไม ปรมาจารย์ ศิลปะการต่อสู้ ในสมัยก่อน จะมอบใบรับรองวิทยะฐานะ และ แสดงให้เห็น ถึงส่วนประกอบหรือ จุดสำคัญ เฉพาะลูกศิษย์ ที่ฝึกฝนอย่างหนักและ เคร่งครัด จนแทบจะทนไม่ได้ เพื่อที่ จะนำพาเขาเหล่านั้น ให้ เข้าถึง จิตวิญญาณ แท้จริง ของ BUDO (หนทางแห่งการต่อสู้)
  5. เมื่อคุณเรียนรู้เทคนิค ใหม่ๆ จงฝึกฝนอย่างเต็มที่ จนกระทั่งเข้าใจมันจริงๆ อย่าอยากที่จะเรียนรู้ทุกอย่าง ในครั้งเดียว จงฝึกฝน อย่างระมัดระวัง คาราเต้ มีเทคนิค และท่ารำ อีกมากมาย อย่าคิดว่า ยังมีอีกมากที่ จะต้องเรียนรู้ จึงต้องรีบเรียนรู้ทุกอย่าง เป็นไปไม่ได้เลยที่ คนไม่มีประสบการณ์ จะจดจำ ความหมายและเทคนิคต่างๆ ในท่ารำได้ทั้งหมด ทำรำนั้น จะไม่มีอะไรเลย นอกจากเทคนิค ที่ตะกุกตะกัก และยุ่งเหยิง การเรียนรู้ ในแต่ละเทคนิค และการเคลื่อนไหวอย่างไม่ต่อเนื่อง จะไม่สามารถรู้ว่า ท่ารำแต่ละท่า มีความสัมพันธ์กันอย่างไร และท่ารำนั้น รวบรวม เทคนิคการและการเคลื่อนไหว เอาไว้อย่างไร เรียนรู้อย่างหนึ่ง และ ลืมอีกอย่างหนึ่ง สุดท้ายสิ่งที่ได้มากก็ คือ ความสับสัน
  6. ลูกศิษย์ ที่มีความชำนาญ เป็นอย่างดีในเทคนิค หนึ่งแล้ว จะสามารถมองเห็นจุดสำคัญต่างๆ ที่เหมือนกัน ในเทคนิคอื่น ได้โดยธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นการชกในระดับหน้า (Joudan) หรือ ลำตัว (chudan) การชกในท่าทางต่างๆ (Oizuki or Gyakuzuki) ทั้งหมดล้วนมาจาก หลักการเดียวกัน เมื่อมองเข้าไปในท่ารำเหล่านั้น จะเห็นว่ามีจุดสำคัญ หลากหลาย มากมาย ถ้าคุณเข้าใจในแต่ละเทคนิคแท้จริงแล้ว คุณเพียงแค่สังเกตรูปแบบ และได้รับการสอน ในจุดสำคัญอื่นๆ คุณก็สามารถเข้าใจ ท่ารำนั้นได้ ในระยะเวลาอันสั้น
  7. อย่าอวดอ้างตัวเอง ราวกับ เป็นปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ และ พยายามที่จะแสดงความแข็งแกร่งออกมา มันเป็นเรื่องที่เหลวไหล และ น่าขัน ที่หลายคนที่ฝึกศิลปะการต่อสู้ มักรู้สึกว่าจะต้อง แสดงให้คนอื่นรู้ ว่าเขาเป็นผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้ ลองจินตนาการ ภาพชายที่เดินอวดเบ่ง วางท่าบนถนน ราวกับเป็นเจ้าของ อีกทั้งยังแสดงสีหน้าว่า "ข้าเป็นสุดยอดนักสู้" แม้ว่า เขาจะเป็นเช่นนั้นจริง แต่คนที่ เคารพนับถือก็คงจะลดลง ไม่ถึงครึ่ง และ แน่นอน ว่า ถ้าเป็นคนที่ไม่มีความสามารถจริงๆ ก็จะกลายเป็นตัวตลก ในที่สุด
  8. นิสัยที่ชอบแสดง ความอวดเก่ง หรือแสดงความเหนือกว่า มักจะถูกกล่าวถึงกันในกลุ่ม ผู้ที่เพิ่งเริ่มฝึก การแสดงออกเช่นนี้ เขาได้สร้างความขายหน้า และยังทำลายชื่อเสียง ของผู้ที่ตั้งใจฝึก ศิลปะการต่อสู้อย่างจริงจัง พวกเขามีความรู้ตื้นๆ ในเทคนิค คาราเต้ เพียง 1 - 2 เทคนิคเท่านั้น
  9. " รอยยิ้มของเขาสามารถชนะในแม้แต่เด็กตัวเล็กๆ ความน่ากลัวของเขา ทำให้เสือ ต้องนอนราบคาบ ด้วยความกลัว " นี่คือบทสรุปที่จะอธิบาย ถึงผู้ที่ฝึกศิลปะการต่อสู้ อย่างแท้จริง
  10. คุณต้องเอาใจใส่ อย่างมากในเรื่องของ มารยาท และ สัมมาคารวะ คุณจะต้องเคารพเชื่อฟัง และ อ่อนน้อมถ่อมตนต่อรุ่นพี่ " ไม่มีศิลปะ การต่อสู้ชนิดใด ที่ไม่เน้น ความสำคัญในเรื่อง มารยาท และ ธรรมเนียมการเคารพ "
  11. มารยาท และ การเคารพไม่ควรถูกจำกัดอยู่ในโรงฝึก... จะมีใครบ้างหรือไม่ ที่เคารพหิ้งบูชา ภายในโรงฝึก แต่เวลาเจอศาลเจ้าข้างทาง แล้วเดินผ่านไปโดยไม่ แสดงความเคารพ ??? ข้าพเจ้าหวังว่า คงจะไม่มี ในทำนองเดียวกัน ... จะมีใครบ้างหรือไม่ ที่ตั้งใจ ทำตามคำสั่ง ของรุ่นพี่ในโรงฝึก แต่ละเลยคำสอนของพ่อ หรือ พี่ชาย โดยสิ้นเชิง ??? หวังว่าคงจะไม่มี แต่ถ้ามี คนเช่นนั้น เขาก็ไม่มีสิทธิ ที่จะฝึกศิลปะการต่อสู้
  12. อยู่ที่บ้านเชื่อฟังพ่อ แม่ และ พี่ อยู่ที่โรงเรียน เชื่อฟังอ่อนน้อมต่อครู และ รุ่นพี่ เป็นทหาร เชื่อฟัง คำสั่งของผู้บังคับบัญชา อยู่ที่ทำงานไม่แสดง การต่อต้าน หรือไม่เคารพ ต่อ หัวหน้า สิ่งเหล่านี้ เป็นสิ่งที่มีค่า ได้รับ มาจากการฝึก คาราเต้
  13. คุณจะต้องละเลย สิ่งที่ไม่ดี และ รับในสิ่งที่ดี เมื่อคุณสังเกตการฝึกของผู้อื่น และค้นพบว่า เป็นสิ่งที่ควรจะเรียนรู้ จงอย่าลังเลที่จะพยายาม ฝึกมันให้เชี่ยวชาญ ถ้าคุณสังเกตเห็น คนที่เริ่มจะเกียจคร้าน จงตรวจสอบตนเอง ด้วยสายที่เคร่งครัด เมื่อคุณเห็นคนที่สามารถเตะได้ดี ถามตัวเองว่าทำไมเขาจึงเตะได้ดี? คุณจะทำอย่างไรจึงจะเตะได้อย่างนั้น? การเตะของคุณต่างจากของเขาอย่างไร? ด้วยวิธีนี้คุณจะสามารถหาวิธีที่จะพัฒนาการเตะของคุณ เมื่อคุณเห็นคนที่ฝึก แล้วไม่พัฒนาขึ้น เช่นเดียวกัน ลองถามตัวคุณเองว่าทำไม บางที เขาอาจจะนึกไม่มากพอ หรือ อาจจะขาดความตั้งใจที่แน่วแน่ จงถามตัวเอง ว่า สิ่งเดียวกันนี้ เกิดขึ้นกับคุณหรือไม่?
  14. ทัศนะคติ เช่นนี้ ไม่ได้ใช้เฉพาะในการพัฒนา ความสามารถในด้านเทคนิค เท่านั้น เราทุกคน ต่างมีข้อดี และ ข้อบกพร่อง ถ้าเราต่าง จริงใจต่อความต้องการ ที่จะพัฒนาตัวเอง คนทุกคน สามารถที่จะเป็นต้นแบบ เพื่อเป็นเงาสะท้อน สำหรับตัวเราได้ มีภาษิตในสมัยก่อน กล่าวว่า " เมื่อเราเดินไปกับคนสองคน พวกเขาอาจจะเป็น เสมือน ครูของเราได้ เราจะเลือกทำตามในสิ่งที่ดีของเขา สิ่งที่ไม่ดีก็จะหลีกเลี่ยง "
  15. จงคิดว่า ชีวิตประจำวันก็เหมือน การฝึกคาราเต้ อย่าคิดว่า คาราเต้ อยู่เพียงแต่ใน โรงฝึก หรือ เป็นเพียงการต่อสู้ จิตวิญญาณของการฝึกคาราเต้ และองค์ประกอบในการฝึก สามารถนำมาประยุกต์ใช้ กับทุกๆ ด้านของชีวิตประจำวันได้ จิตวิญญาณที่เกิดจาก การฝ่าฟัน ความอดทน ต่อความหนาวเหน็บในการฝึกช่วงฤดูหนาว หยาดเหงื่อแห่งความเหนื่อล้า ไหลรินผ่านดวงตา จากการฝึกในช่วงฤดูร้อน สามารถช่วยคุณในการทำงาน ในชีวิตประจำวันได้อย่างดี ร่างกายที่บากบั่น ผ่านการฝึกเตะและชกอย่างหนัก จะไม่ทำให้พ่ายแพ้ ต่อการเตรียมอย่างหนัก เพื่อการสอบ หรือ การทำงานที่น่าเบื่อ ให้สำเร็จลุล่วงไปได้ ผู้ที่มีวิญญาณ และ จิตใจ ที่แข็งแกร่ง จากการ ต่อสู้ด้วยความเชื่อที่ว่าไม่มีทางยอมแพ้ จะพบว่าไม่มีสิ่งใด ที่เกินกว่า จะสามารถรับมือได้ คนที่ผ่านการฝึกอันยาวนาน ทั้งร่างกายและจิตใจ อย่างหนัก เพื่อ เรียนรู้ การชก หรือการเตะ แค่ครั้งเดียว จะสามารถ รับมือได้กับทุกเรื่องไม่ว่า จะยากแค่ไหน ก็จะสำเร็จ ลุล่วงไปได้ คนเช่นนี้ คือคนที่กล่าวได้ว่า ผ่านการฝึก คาราเต้อย่างแท้จริง

แปลและเรียบเรียง โดย : ROY

Ref : Karate-Do Nyumon by Master Gichin Funakoshi