บทสัมภาษณ์ อาจารย์เจิดจรุง สายดำขั้นที่ 5 โชโตกัน คาราเต้
เป็นบทความเก่า ที่คิดว่ายังเป็นประโยชน์ กับ น้องๆ ที่จะตัดสินใจ ฝึกคาราเต้
สำหรับการทำบทสัมภาษณ์นี้ ทางทีมงาน Webmaster อยากพาไปรู้จักกับประวัติ ความเป็นมา แนวคิด และปรัชญาคาราเต้ ของพี่ๆสายดำให้สมาชิก พี่ๆน้องๆ ได้รู้จักกันมากขึ้น (...ว่าไม่ได้เป็นยอดมนุษย์ หรือสัตว์ประหลาด มาจากไหนนะ แต่ลำบากมาก เหมือนพวกเราตอนนี้ นี่แหละ กว่าจะได้สายดำมาเนี่ย...)
คนแรกที่จะแนะนำกันให้รู้จักกันก่อนเลย คือ อ.เจิดจรุง จันทร์ศิริ ชื่อนี้หลายคนอาจรู้สึกไม่คุ้นเคย เอ๊ะ! มีสายดำชื่อนี้ด้วยเหรอ แต่ถ้าเอ่ยถึง “พี่ป๊อป” แล้ว ทุกคนที่เคยฝึกกันมาบ้างคงร้องอ้อ... พี่ป๊อปจบปริญญาตรี ศึกษาศาสตร์ จาก ม.เกษตรศาสตร์ ปัจจุบันทำงานอยู่ ธนาคารกรุงเทพ สาขาสำนักงานใหญ่ และ เปิดสอนคาราเต้ที่ “โปรมาเชียลอารท์”-ปัจจุบันได้ยุบไปแล้ว ด้วย มีดีกรีระดับ 5 Dan จาก J.K.A. (Japan Karate Association)
พี่ป๊อปเริ่มต้นฝึกคาราเต้สมัยอยู่ ม.6 (คาดว่าคงนานมากแล้ว อิ อิ..) จากการ ชักชวนของเพื่อน โดยชวนไปฝึกที่ Y.W.C.A. ในสมัยนั้น แต่ในใจจริงๆแล้ว อยากฝึก มวยไทย มากกว่า เพราะ เป็นศิลปะประจำชาติ แรงบันดาลใจ ที่อยากฝึกศิลปะป้องกันตัว เพราะสมัยเด็กๆอยากเก่ง อยากสู้คนตัวใหญ่กว่าได้ และที่สำคัญเป็นคนที่ขาดความมั่นใจในตนเอง ต้องการสร้างความมั่นใจ ให้กับตนเอง (เอ แต่แหล่งข่าวบอกว่าจริงๆแล้ว ตามไปจีบสาวไม่ใช่เหรอ?) เมื่อเริ่มฝึกคาราเต้ที่ Y.W.C.A. สามารถตอบสนอง ความต้องการได้หมดในเรื่องการป้องกันตัว เพราะที่นี่มีความหลากหลาย ของวิชาการต่อสู้ โดยมีคาราเต้เป็นแกนนำฝึกอยู่ 3 ปีจนได้สายน้ำตาล ในช่วงนั้น (ปี2533) เป็นช่วงที่อ.ฟุจิคิโยะ โอมูระ (7Dan J.K.A.)ได้รับเชิญให้เข้ามาสอนที่ประเทศไทย ที่โรงฝึก C.B.House และ เป็นโค้ชทีมชาติด้วยในเวลาต่อมา ทาง Y.W.C.A. ต้องการสร้างมาตรฐาน การฝึกสอนอย่างจริงจัง ให้กับคาราเต้ จึงส่งคนเข้าไปเรียนที่ C.B. House พี่ป๊อปเองก็เป็นหนึ่งในนั้น ในช่วงที่พี่ป๊อปฝึกคาราเต้นั้น 7 ปีแรกเคยขาด การฝึก แค่วันเดียว เท่านั้นเอง (พี่ป๊อปเล่าด้วยความภาคภูมิใจ...ทำได้ไงเนี่ย) ต่อมาในปี 2537 Y.W.C.A. มีปัญหาด้านสถานที่ จึงยกเลิกไปในที่สุด พี่ป๊อปจึงซ้อมที่C.B.House และที่ม.เกษตรฯ เป็นหลัก (ถือเป็นรุ่นบุกเบิกที่ม.เกษตรฯ อย่างแท้จริง) ในปัจจุบันพี่ป๊อปฝึกคาราเต้มา 13 ปี แล้ว และ พัฒนาตัวเองขึ้นเป็นผู้ฝึกสอน
ในช่วงเริ่มต้น กับคาราเต้ ใหม่ๆ หลายคนอาจรู้สึกเหนื่อยมาก ท้อแท้ เบื่อกับความซ้ำซากจำเจ ของการฝึกพื้นฐาน พูดถึงเรื่องนี้ พี่ป๊อปบอกว่า เป็นกันทุกคน แม้แต่พี่ป๊อปเองก็เป็น แต่ก็ได้กำลังใจจากพี่ๆ ว่าถ้าเราสามารถ ผ่านช่วงนี้ไปได้ ฝีมือเราก็จะพัฒนาขึ้น และเราต้องรู้จักเอาชนะตนเองก่อน จึงจะเอาชนะคนอื่นได้ เวลาท้อพี่ป๊อปมักบอกกับตัวเองว่า “หยุดไม่ได้” ถ้าหยุด เราก็จะแพ้ตัวเอง และไม่สามารถเก่งขึ้นได้อีก
คาราเต้ให้อะไรกับพี่ป๊อปบ้าง?
พี่ป๊อปตอบโดยไม่ลังเลเลยว่า ให้ความมั่นใจ ความอดทน ความเข้มแข็ง จากการฝึกฝน การนำซ้อม จนถึง การฝึกสอนให้กับเด็กใหม ่และน้องๆ ทำให้เกิดความกล้า กล้าแสดงออก พัฒนาจนเป็นความเชื่อมั่นในตนเอง นอกจากนี้ การฝึกคาราเต ้ยังทำให้ควบคุมตัวเอง ได้ดี สามารถควบคุมอารมณ์ มีสติยั้งคิด ตัดสินใจได้ดีในเหตุการณ์เฉพาะหน้า ในจุดนี้ พี่ป๊อปเล่าว่า คนส่วนใหญ่ มองว่า คาราเต้ เป็นการเพาะสร้าง ความก้าวร้าวในตัวผู้ฝึก แต่สิ่งที่พี่ป๊อปได้จากการฝึกฝนนั้น พบว่าถ้าฝึกอย่างหนักและต่อเนื่องแล้ว กลับทำให้ เราสามารถควบคุม ความก้าวร้าวที่มีอยู่ได้เพราะ ในความเป็นจริงแล้วคนทุกคนมีความก้าวร้าวอยู่ในตนเอง คาราเต้ทำให้เราสามารถ “ควบคุม” และ “ปลดปล่อย” มันออกมาได้ อย่างเหมาะสม พี่ป๊อปเน้นว่า นี่คือ ความคิด ความเข้าใจ ของพี่ป๊อปเอง อาจไม่ถูกต้องเสียทีเดียว ก็ได้
เรายังสามารถนำคาราเต้ ไปใช้ในชีวิตประจำวัน ได้ด้วย เช่นเรารู้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ ในปัจจุบัน และจะทำอะไรต่อไป ในอนาคต รู้จักตั้งเป้าหมายในชีวิต ไม่ปล่อยชีวิตไปวันๆ โดยขาดจุดหมาย เหมือนกับการฝึกซ้อม ที่เราต้องมีสมาธิในการฝึก รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ กำลังชกอยู่ หรือกำลังเตะอยู่ รู้กระทั่งจังหวะ ลมหายใจที่เข้าออก ชกอย่างมีเป้าหมาย ซ้อมอย่างมีเป้าหมาย มีเป้าหมาย ในการเล่น ในการฝึกซ้อมคาราเต้
อย่างนั้นเป้าหมายในคาราเต้ของพี่ป๊อป ณ.ตอนนี้คืออะไร?
การสร้างและพัฒนานักกีฬา หรือ เด็กรุ่นใหม่ๆขึ้นมา การสร้างมาตรฐาน การฝึกสอนที่ดี ให้กับตนเอง และการได้เป็น Instructor ของ J.K.A. เป็นเป้าหมายสูงสุด สามารถจัดสอบสายเองได้ ให้สายเองได้
สำหรับการฝึกสอน พี่ป๊อปเล่าว่ารูปแบบการฝึกสอนของพี่ป๊อปจะแตกต่างกันไปคือ เปลี่ยนไปตามคนที่เรียน เพราะคิดว่า คนแต่ละคนไม่เหมือนกัน มีเป้าหมายในการฝึกซ้อมแตกต่างกัน เช่น บางคนต้องการออกกำลังกาย บางคนต้องการเป็นนักกีฬา จึงคิดว่าน่าจะให้ตามความแตกต่างของแต่ละคน
พี่ป๊อปยังกล่าวถึงอ.โอมูระ ว่า รูปแบบการสอนของเซนเซดีมาก สามารถทำของยากให้กลายเป็นของง่ายได้ และ เป็นแม่แบบในการฝึกสอนของพี่ป๊อปเองในปัจจุบัน สุดท้ายพี่ป๊อปได้ฝากข้อคิดถึงคนที่เพิ่งเริ่มต้นฝึกใหม่ๆ รวมถึงคนที่ฝึกมาได้ระยะหนึ่งแล้วว่า ให้ลองถามตัวเองดูว่า ชอบคาราเต้มั้ย? มีเป้าหมายอะไรในการฝึก? ต้องการได้อะไรจากคาราเต้? และให้สังเกตตัวเองว่าการฝึกในแต่ละครั้ง เรามีการพัฒนาขึ้นมั้ย?
“ถ้าเราเกิดอาการท้อ ให้ลองกลับไปดูวันที่ตัวเองเริ่มต้น จะพบว่าจากที่เราทำอะไรไม่ได้เลย วันนี้เราสามารถทำอะไรได้เยอะขึ้น แล้วลองพิจารณาอุปสรรคที่ขวางอยู่ว่าเกิดจากอะไร และหาทางข้ามมันไปให้ได้ อย่ายอมแพ้มันเพราะมันเป็นการพ่ายแพ้ตัวเอง และมันจะเกาะกินใจเราไปตลอด เราก็จะกลายเป็นคนขี้แพ้ จนวันหนึ่งเราอาจย้อนกลับมาถามตัวเองว่า ทำไม? วันนั้นเราไม่พยายามผ่านมันไปให้ได้”
คิดว่าจากบทสัมภาษณ์นี้สมาชิก เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆคงได้อะไรจากพี่ป๊อปมากมาย ทาง Webmasterขอขอบคุณ อ.เจิดจรุง หรือ พี่ป๊อปเป็น อย่างมาก สำหรับคนที่อยากฝึกซ้อมกับงาน พี่ป๊อปหรือมีสะดวกแถว ถ.พระราม9-รามอินทรา สามารถฝึกซ้อมได้ที่ Promartial Art วันอังคาร และ เสาร์ เวลา 17.30-19.30น.วันอาทิตย์ เวลา 9.00-11.00น.หรือโทรหาพี่ป๊อปที่ 083 901 1167
เรื่องโดย : Ichiro